ริชิโกลด์ REISHI GOLD
ริชิโกลด์ REISHI GOLD
3,120.00 ฿
ขนาดบรรจุ : 100 แคปซูล/กระปุก
ราคาปลีก : 3,120 บาท
ราคาสมาชิก : 2,400 บาท
หลินจือโกลด์ REISHI GOLD
“หลินจือโกลด์” แตกต่างจาก “ดอกหลินจือ” ที่สมาชิกครอบครัวกาโนถามกันมากมายอย่างใดบ้าง
ทำความรู้จักกับการเริ่มต้นของหลินจือโกลด์ก่อน โดยทำการคัดเลือกดอกหลินจือในโรงเพาะที่เป็นดอกหลินจือ สวยที่สุด สมบูรณ์ที่สุด ดังนั้น จึงได้ดอกหลินจือดังกล่าวในแต่ละรุ่นจากโรงเพาะไม่มากนัก จากนั้น นำไปต้มเคี่ยวด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย จนได้น้ำหลินจือที่มีความเข้มข้นสูง เท่านั้นไม่พอ เพื่อความเข้มข้นได้ประสิทธิภาพประสิทธิผลยิ่งขึ้น มิสเตอร์เลี่ยวได้ดึงสารจากหลินจือสกัดเย็นเติมเพิ่มเข้าไปอีกจำนวนหนึ่ง แล้วเติมแป้งที่มีคุณภาพในปริมาณน้อยเพื่อการจับตัวของหลินจือที่เป็นน้ำ
หลินจือโกลด์ เหมาะสำหรับผู้ป่วยเกี่ยวกับตับ เกี่ยวกับระบบของน้ำ เช่น ปัญหาเกี่ยวกับน้ำเหลือง เกี่ยวกับระบบเลือด เพราะหลินจือโกลด์เมื่อกินเข้าไปแล้วจะซึมซับเข้าร่างกายในระบบของน้ำได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพประสิทธิผลในการรักษาได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน
สรรพคุณ
เห็ดหลินจือสกัดเข้มข้นละลายน้ำ 100%
ช่วยกำจัดสารพิษในร่างกาย
บำรุงตับช่วยสมานแผล ในกระเพาะอาหาร
ฟื้นฟูการทำงานของไต
อุดมไปด้วยสารอะดีโนซีน ทำหน้าที่ขยายหลอดเลือด
ริชิโกลด์ REISHI GOLD คือเห็ดหลินจือ ส่วนดอก ที่เขาสกัดโดยการใช้วิธี ซึ่งจะใช้ความร้อนในการสกัด ข้อแตกต่างคือ ริชิโกลด์ REISHI GOLD จะใช้ความร้อนในการสกัด ดังนั้นสารบางอย่างที่มันไวต่อความร้อน มันก็อาจจะไม่ค่อยอยู่ใน ริชิโกลด์ REISHI GOLD มันก็อาจจะไปอยู่ในดอกธรรมดาเยอะหน่อย เพราะว่าในหลินจือกลุ่มของสารออกฤทธิ์ ถ้าเราแบ่งตามเกณฑ์ในการละลายมันก็จะมี กลุ่มที่เป็นสารไม่ละลายน้ำ กลุ่มที่เป็นสารละลายน้ำ กลุ่มที่เป็นสารระเหยง่าย
เพราะฉะนั้นเวลาที่โดนความร้อน สารบางอย่างอาจจะไม่ได้อยู่ใน ริชิโกลด์ REISHI GOLD แต่มันไปอยู่ในตัว สปอร์เห็ดหลินจือ อีกตัวหนึ่ง แต่สารอย่างที่เขาใช้ความร้อนไปสกัดไปดึงมันออกมาความร้อนก็คือเป็นพลังงาน เพราะฉะนั้นการที่ใช้ความร้อนไปดึงออกมา สารบางอย่างก็อาจจะออกฤทธิ์เยอะขึ้น
เพราะฉะนั้น ทั้งตัวดอกที่เป็นกระปุกสีขาว หรือว่าเป็น สปอร์เห็ดหลินจือ ซึ่งไม่ละลายน้ำ กับตัว ริชิโกลด์ REISHI GOLD ซึ่งละลายน้ำ 100% จริงๆแล้วเราควรที่จะใช้คู่กันทั้ง 2 ตัว โดยเฉพาะคนที่มีอาการป่วยเยอะ ป่วยเรื้อรัง เป็นหลายโรค อาการซับซ้อน พวกนี้ต้องใช้ทั้ง 2 ตัว ร่วมกัน แต่มันจะมีวิธีในการแนะนำใช้อีกว่า ต้องใช้แบบไหน ต้องเดินแบบไหน ถึงจะเห็นผลได้ดี แล้วก็ไม่เกิดอาการ ขับพิษ จนน่ารำคาญ
สารออกฤทธิ์ทางยาของ ริชิโกลด์ REISHI GOLD ก็จะเหมือนกันในดอก เพียงแต่ว่าบางอย่างอาจจะมีมากกว่า บางอย่างอาจจะมีน้อยกว่า แค่นั้นเอง แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ถ้าคนที่ป่วยเป็น มะเร็ง เป็นมะเร็ง ข้อที่ 1 ข้อที่ 2 ตับทำงานหนัก ต้องกินยาแผนปัจจุบันเยอะ หรือเป็น โรคตับ อยู่แล้ว หรือ ดื่มแอลกอฮอล์เยอะแล้วก็ทำให้ตับมันมีโอกาสเกิดเป็น ตับแข็ง เพราะฉะนั้นโรคที่เกี่ยวกับตับ และก็มะเร็ง คุณควรจะต้องเพิ่มปริมาณ ริชิโกลด์ REISHI GOLD ให้มากนิดนึง มากกว่าตามเกณฑ์ปกติที่เขากำหนด เช่น
ปกติเขากำหนดให้กินวันละ 1 แคปซูล วันละ 1-2 ครั้ง ครั้งละ 1 แคปซูล คุณก็อาจจะต้องเพิ่มปริมาณเข้าไป
การเก็บรักษา ด้วยความที่ ริชิโกลด์ REISHI GOLD เป็นตัวที่มันละลายน้ำ 100% เพราะฉะนั้นมันจะดูดความชื้นได้ง่าย คุณจะต้องเก็บในที่ไม่มีความชื้น ที่แห้ง อุณหภูมิไม่ร้อนจนเกิน ไม่อบอ้าว ไม่มีแสงแดดส่อง ถึงไม่มีหนูแมลงสาบ หรือว่าอะไรที่จะไปรบกวนมันได้ เพราะฉะนั้นตรงนี้การเก็บสำคัญเมื่อเปิดใช้แล้วจะต้องปิดให้สนิท อย่าปิดให้ฝามันปีนเกลียวกัน มันก็จะความชื้นเข้าได้ ท่านต้องระมัดระวังในการเก็บรักษา
กาโน เอ็กเซล เป็นบริษัทแรกของโลก ที่เราสามารถ ผลิตหลินจือในรูปแบบ ละลายน้ำได้ 100%
กาโน เอ็กเซล เป็นบริษัทแรก เป็นความภาคภูมิใจมาก และเราก็เอาหลินจือ 100% ที่ละลายน้ำได้ตัวนี้ไป ผสมในกาแฟ ผสมในช็อกโกแลต ต่างๆ เพราะว่าผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มมันจะต้องละลายน้ำได้ แต่อีกส่วนหนึ่งที่เป็น สปอร์เห็ด เราก็มาบรรจุกระปุกสีขาว จำหน่าย และเราก็มีกระปุกที่เป็น ริชิโกลด์ REISHI GOLD ละลายน้ำ 100% จำหน่าย อีกด้วย
ริชิโกลด์ กับ ดออก ใช้เวลาเพาะเลี้ยงเท่ากันคือ 90 วัน เวลาที่กินไปแล้ว ถ้าร่างกายของคนป่วยมีสารพิษตกค้าง มีของเสีย บางทีพอพูดถึงสารพิษ คนก็จะชอบคิดไปถึงว่า เป็นยาสารเคมีสังเคราะห์ที่ตกค้างหรือเปล่า สารตกค้างจากผักผลไม้จากเนื้อสัตว์หรือเปล่า โลหะหนักหรือเปล่า จริงๆก็เปลี่ยนคำดีกว่าไม่อยากใช้คำว่าสารพิษอย่างเดียว ใช้เอาคำรวมว่าเป็นของเสียที่มีอยู่ในร่างกายคุณนั่นแหละ มันอาจจะเป็นเชื้อโรค อาจจะเป็นอะไรก็ได้สุดแท้แต่ ที่แต่ละคนก็จะสะสมไม่เหมือนกัน ก็เรียกเป็นว่าของเสีย คราวนี้ของเสียพวกนี้ ถ้าร่างกายมันขับออกได้ไม่หมด ซึ่งมันไม่หมดอยู่แล้วแหละ ยิ่งคนที่ร่างกายไม่ค่อยดี ตับ ไต มีปัญหาพวกนี้ก็จะยิ่งขับของเสียออกไปได้น้อยลงไปอีก
การกินเห็ดหลินจือ โดยเฉพาะในตัวดอกมันจะทำให้ร่างกาย มีกระบวนการในการเอาสารพิษ หรือเอาของเสียที่อยู่ในร่างกายออกไป การเอาออกไปมันก็มีหลากหลายวิธีหลากหลายรูปแบบ อย่างเช่น บางคนกิน หลินจือ แล้วมีอาการถ่ายเหมือนท้องเสียเลย ทั้งๆที่ก็กินอาหารสะอาด กินน้ำสะอาดอะไรปกติ แต่ทำไมกิน หลินจือ มันถ่ายตลอด อันนี้ก็คือ เป็นการระบายพิษในทางเดินอาหาร ในลำไส้ ในกระเพาะออกไป หรือ บางคนทาน หลินจือ ไปแล้วปรากฏว่า ถ่ายปัสสาวะออกมาในรูปแบบที่ไม่ปกติ บางทีถ่ายปัสสาวะออกมาเป็นฟองบ่อยๆเลย แล้วก็กลิ่นของปัสสาวะอาจจะมีกลิ่นคาว หรือว่าอาจจะมีสีที่มันผิดแปลกไปจากปกติ ปัสสาวะปกติ ควรจะมีสีเหมือนกับเป็นเป็นแบบน้ำมะนาว แบบเป็นสีเหลืองอ่อนๆ แต่ว่าบางทีทานไปแล้วหลินจือทานไปแล้ว ปัสสาวะออกมาสีเข้มกว่าปกติ มีกลิ่นที่ผิดปกติ
อันนี้ก็จะเป็นในรูปแบบการระบายพิษออกไปทางไต จะออกมาเป็นปัสสาวะ หรือว่าอาจจะออกมาจากการมีกลิ่นปาก หรือมีเหงื่อออกมาก็ได้ บางครั้ง สารพิษ สารเคมี มันสะสมอยู่ตามผิวหนัง มันอาจจะลงไปในหลอดเลือด แต่ว่ามันอาจจะตกค้างอยู่บริเวณรอบๆผิวหนังชั้นหนังกำพร้า แล้วก็ลงไปถึงชั้นหนังแท้ พวกนี้ เวลาที่ทาน หลินจือ ไปแล้วก็อาจจะมีเหงื่อออก มีผดมีผื่นขับออกมา ทั้งหมดนี้เราเรียกว่ากระบวนการลักษณะของ การขับพิษ ระบายพิษ ล้างของเสียออกมา
มันจะเกิดขึ้นเด่นชัดนิดนึง ถ้าคุณกินตัว ดอกหลินจือ เข้าไปแล้วก็บังเอิญว่าในร่างกายของคุณมีสิ่งไม่ดีอยู่ แต่ว่าถ้าร่างกายสะอาดมาก ดูแลตัวเองอย่างเพอร์เฟค กินอาหารที่ดี ออกกำลังกายเหมาะสม ดีทุกอย่างเลย มันก็อาจจะไม่มีอาการขับพิษอะไรให้เห็นเท่าไหร่ กินไปแล้วมันก็จะไปช่วยข้างใน ร่างกายเราก็จะค่อยๆดีขึ้น
ริชิโกลด์ REISHI GOLD จะต้องกิน ครั้งละ 1-2 แคปซูล วันละ 1-2 เวลา ตามปกติ แล้วก็ต้องก่อนอาหาร 1 ชั่วโมงขึ้นไป
ถ้าป่วยซับซ้อน ป่วยหลายโรค ป่วยหนัก คุณมีความจำเป็นต้องกินให้ครบทั้งตัว ดอกหลินจือ ที่เป็นสปอร์ และดอกสกัดด้วยความร้อน หรือ ริชิโกลด์ REISHI GOLD แล้วก็ต้อง รากหลินจือ
เพราะว่า บริษัท กาโน เอ็กเซล เรามีหลินจือ 3 รูปแบบด้วยกันที่แตกต่างกัน นอกนั้นก็เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอื่นๆที่บางตัวก็มี หลินจือ ผสมอยู่ บางตัวก็อาจจะไม่มี แต่หัวใจหลักสำคัญก็คือ 3 ตัวนี้
(ที่มาบทความ : ภก.ณัฐวัฒน์ จิโรจพงศ์)
No comments:
Post a Comment